เลือกอ่าน
“อารมณ์ที่สื่อผ่านสีของรถในมอเตอร์ไซค์ Triumph”
สวัสดีครับพี่น้องชาว Triumph Bangkok Ram ที่รักของผม ก็เรียกได้ว่าตอนนี้สถานการณ์ในบ้านเราเริ่มมีการผ่อนคลายกันมาบ้างแล้วนะครับ แต่ไม่ว่ายังไงเวลาเราออกไปไหนมาไหนก็ยังต้องคอยระวัง พร้อมสวมหน้ากากอนามัยอยู่ตลอด ใช้แอลกอฮอล์ล้างมืออยู่เสมอด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยของเรา และคนที่เรารักครับ แต่ถ้าหากใครไม่ได้ไหน อยู่บ้านว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ดูหนังเบื่อแล้ว WFH จนเหนื่อย อยากหาอะไรคลายเครียดๆ ทำ ผมแนะนำเลยนะครับให้มาอ่านบทความของเราสิครับ รับรองได้เลยว่าไม่ผิดหวัง แถมยังได้สาระอีกด้วย ฮ่าๆๆๆ
มาครับเปิดกันขนาดนี้แล้วยังไม่รู้เลยว่าพูดคุยกันเรื่องอะไร … ล้อเล่นครับ ก็ตามชื่อที่พาดหัวเรื่องเลยกับ “อารมณ์ที่สื่อผ่านสีของรถในมอเตอร์ไซค์ Triumph” ยังไงละครับ มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหมล่ะครับสำหรับในแต่ละรุ่นที่ให้อารมณ์ในการขับขี่ที่ต่างต่างกัน นั้นก็เพราะรูปทรง แต่ใครจะไปคดลึกลงไปกันใช่ไหมครับว่าในแต่ละสีของมอเตอร์ไซค์ Triumph ก็ให้อารมณ์ในการมองที่แตกต่างไปอีก ฮั่นแน่ๆ น่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ งั้นเอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าสำหรับในหมวด MODERN CLASSICS
สำหรับสีแรกที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้ผมขอเปิดด้วยสีดำละกัน เรียกได้ว่าเป็นสีพื้นที่สุดของทาง Triumph เลย แต่ถ้าพูดถึงดำหลายคนอาจจะเกิดคำถามใช่ไหมล่ะครับว่า “สีดำ ก็สีดำปกตินี่?” แต่มันไม่ใช่อย่างงั้นนะสิครับ เพราะสีดำของทางเราก็จะมีแยกออกไปอีกสองแบบนั้น คือ ดำด้าน และ ดำเงา หรือถ้าจะแยกเป็นความต่างของทางด้านของอารมณ์ที่มองในสีดำด้าน ก็จะสื่อความหมายได้ว่า เป็นความดุดันที่ชัดเจน แสดงถึงความแข็งแรงแกร่ง และมั่นคง คงด้วยเพราะสีด้านนั้นไม่มีลูกเล่นเยอะมากนัก อารมณ์ที่สื่อสารออกมาก็คงได้แบบนี้หรือถ้าหากมองในสีดำเงา ผมว่ามันก็จะแตกต่างกันไปอีกแบบ ถึงมันจะเป็นสีดำเหมือนกัน แต่ในความเงานั้นมันก็แฝงไปด้วยความลุ่มลึกน่าหลงใหล มันดูอ่อนโยนเข้าถึงง่ายกว่าสีด้าน และยังสื่อสารได้ซึ่งในสีที่ผมกล่าวไปทั้งหมดนี้เป็นความเห็นในเรื่องของสีเพียงเท่านั้นแต่ภาพรวมก็คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ขับขี่แล้วด้วยว่าจะแต่งตัวให้ออกมาอย่างไรเพื่อให้เข้ากับรถสุดรักของเรา เพื่อที่จะทำให้เกิดการสื่อสาร สื่ออารมณ์ออกไปในภาพรวมที่เข้ากับสีรถนั้นเองครับ
เรามาดูกันต่อที่สีอื่นกันบ้างดีกว่าแต่ก็นะครับถ้าจะให้ผมแยกๆ กำหนดไล่ไปเป็นสีๆ ก็คงจะงงกันตาแตก ฮ่าๆๆๆ งั้นเอาเป็นว่าผมจะยกตัวอย่างมาเป็นรุ่นๆ ละกัน นั่นก็เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น และสะดวกต่อการอ่านนั่นเอง งั้นผมว่าเรามาเริ่มกันที่โมเดลยอดฮิตตลอดการขวัญใจสายคลาสสิกตลอดกาลนั้นก็คือ BonnevilleT100 โดยที่ผมจะมาแนะนำให้รับรู้ถึงอารมณ์ของสีจะเป็นรถปี 2021 ครับ โดยจะมีด้วยกัน 3 สี คือ LUCERNE BLUE FUSION WHITE, CARNIVAL RED FUSION WHITE และ JET BLACK สำหรับสีแรกที่เราจะหยิบมาพูดถึงกันก็เรียกได้ว่าเมื่อมีคนพูดถึงสี
– LUCERNE BLUE FUSION WHITE หรือที่เรียกกันว่าสี น้ำเงินขาว
โดยอารมณ์ที่สื่อสารผ่านจากสีนี้ จะให้ความรู้สึกเรียบหรู เรียบง่าย แถมยังมีความทรงเสน่ห์อยู่ในตัว นั้นก็เพราะเป็นสีที่ผสมกันแล้วลงตัวทั้งสีขาวและสีน้ำเงิน และถ้าหากชุดคนขับใส่เสื้อหนังสีน้ำตาลแล้วละก็ หล่อเหลาเอาเรื่องเลยขอบอก
– CARNIVAL RED FUSION WHITE หรือสีแดงขาว
เรียกได้ว่าเป็นอีกสีที่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์เลยก็ว่ากับอารมณ์ที่สื่อสารออกมาผ่านการใส่สีในตัวถังในรูปแบบทูโทนสองสี ซึ่งสีขาวที่มาจะให้อารมณ์ความบริสุทธิ์พร้อมกับสีแดงแบบเฉพาะของ Triumph ที่สื่อถึงความชัดเจน และแน่วแน่ แต่ในส่วนอีกสีที่มีชื่อว่า JET BLACK ผมก็ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วสำหรับส่วนของสีดำ ถ้าเกิดจำไม่ได้ละก็สามารถย้อนขึ้นไปอ่านกันใหม่ได้เลยนะครับ
เอาละครับผมว่าแค่เท่านั้นมันยังไม่พอ ไม่จุใจอะไร งั้นอย่าให้เสียเวลาเลยครับขอผมหยิบยกอีกสักหนึ่งโมเดลมาพูดถึงสีของเขากันหน่อยดีกว่า นั่นก็คือ STREET TWIN สุดยอดลูกผสมผสานโมเดิร์นคลาสสิคนั้นเอง โดยจะมีทั้งหมด 3 สีหลัก ได้แก่ MATT IRONSTONE, COBALT BLUE และ JET BLACK แต่ว่ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ครับ เพราะทาง Triumph ได้มีการทำสีพิเศษให้กับ STREET TWIN 2021 นั่นก็คือ MATT SAPPHIRE BLACK หรือชื่อก็คือ GOLD LINE LIMITED EDITION!!! เอาละครับเรามาเริ่มกันที่ สีแรกกันดีกว่า ครับสำหรับสีที่สื่ออารมณ์ของ Triumph STREET TWIN นั้นก็คือ
– MATT IRONSTONE หรือที่เรียกง่ายๆ ก็คือสี เทาด้าน
แต่รู้ใช่ไหมล่ะครับว่ามันใช่เทาด้านธรรมดา? ฮั่นแน่!!! เพราะถ้าได้สังเกตดูดีๆ แล้วละก็ เราก็จะเห็นว่าเขาเป็นสีเทาออกเงินๆ เป็นฟีลสีรูปแบบของหินตามชื่อเลย ในส่วนของอารมณ์ที่สื่อออกมาก็จะเป็นความมั่นคง ความมั่นใจ เอาง่ายคือเป็นคนคูลๆ นั่นเอง และยิ่งเป็นสีด้านด้วย โอโหไม่รู้จะพูดไหนนอกจากคำว่าเท่แล้วครับ
– COBALT BLUE หรือสี ฟ้าเงา
ผมขอบอกไว้ ณ จุดนี้เลยว่าสีตัวจริงสวยมาก!! มากันที่ในเรื่องของอารมณ์ที่สีนี้ที่สื่อสารออกมา ผมขอมองว่ามันได้ความรู้สึกที่ดี ไม่ว่าดูยังไงก็สบายตา สัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายที่ดูผ่อนคลายในสีนี้ แต่เมื่อใดที่รถสีนี้ได้ออกไปโดนแดดแล้วละก็ ต้องเป็นที่จับตามองอย่างแน่นอน ถ้าหากสงสัยอยากรู้ละก็ เชิญเข้ามาดูตัวจริงได้เลยครับ ที่โชว์รูม Triumph Bangkok Ram ของเราได้เลย
เดินทางมาถึงสีสุดท้ายของบทความนี้ซึ่งเป็นสีพิเศษของเรากับ
– MATT SAPPHIRE BLACK หรืออีกชื่อก็คือ GOLD LINE LIMITED EDITION
มาเข้าถึงอารมณ์ของเจ้าคันนี้เลยดีกว่า สัมผัสแรกที่โดดเด่นสะดุดตาเลยคือ เส้นสีทองที่ตัดกับพื้นผิวสีดำในสีรถทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็น โลโก้ เส้นกระเป๋าข้าง ไปจนถึงขอบล้อ โดยรวมแล้ว MOOD ทั้งหมดจะสื่อสารออกมาเป็นความเรียบหรู สัมผัสได้ถึงความ Luxury ตั้งแต่สี ไปจนถึงชื่อแบรนด์ที่ครบถ้วนและพร้อมไปด้วยความคุ้มค่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
ก็ผ่านกันไปแล้วนะครับสำหรับบทความ “อารมณ์ที่สื่อผ่านสีของรถในมอเตอร์ไซค์ Triumph” ถ้าถูกใจละก็อย่าแชร์หรือถ้าอยากให้ทำในสี และรุ่นอื่นๆ ก็สามารถทักมาบอกกันได้นะครับ ไม่ว่าจะเป็นช่องทาง ไลน์ หรือ เพจเฟสบุ๊ก ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับ และมาดูกันครับว่าในครั้งหน้าผมจะมีบทความอะไรดีๆ มาให้ดูกัน อย่าลืมนะครับ “ถ้าเป็นเรื่องมอเตอร์ไซค์ Triumph ให้นึกถึงเรา และคุณจะรู้ว่าทำไมต้อง Triumph Bangkok Ram”